วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555

รัก.. แล้ทำไง ?


ข้อคิดวันนี้.....รัก... แล้ทำไง ? 

ฝึกใจ             รักใคร            ให้ได้ก่อน
อย่าวิงวอน      คนอื่น            มาหลงไหล
ไม่หวังเขา       เราทำดี           มีอภัย
เกื้อกูลไป        แล้วทำจิต        คิดดีดี
รักใคร            รักเขา            เท่ากล่าวนี้
ไม่หวังที่          ให้เขามา        พาจู๋จี๋
รักแท้               ให้อิสระ            เอื้อสิ่งดี
ไม่หน่วงมี        รึงรัด                ผูกมัดกัน
*******Meeesatidee

รัก กับ หลง


ข้อคิดวันนี้.....รัก  กับ  หลง



รู้รัก               รักให้รู้           ดูว่ารัก
ให้ประจักษ์      ใจจิต             คิดไฉน
รักหรือหลง     แยกให้ออก      บอกจากใจ
รักคือ”ให้”      ใกล้เมตตา      พาเยือกเย็น
รักเป็นหลง     ดูรู้จิต             ติดยึดมั่น
ยากแบ่งปัน     ร้อนจิต           มิตรเคืองเข็ญ
รักเกื้อดี         รักให้นี้           ดีรักเป็น         
หลงลำเค็ญ      หยุดยั้งคิด      จิตทรุดโทรม
         *******Meeesatidee

วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2555

ธรรมดา ๆ ที่ใจได้ผลแล้ว


ธรรมดา ๆ  ที่ใจได้ผลแล้ว  .....
1.  ใจอ่อนโยน
2. ใจมีเมตตา โชยออกมาภายในหัวใจจริง ๆ
3.  ใจเบาๆ สบายใจ  และมีความสุขอยู่ภายใน
4.  สงบเยือกเย็น ทั้ง ๆ ที่อยู่ในท่ามกลางอึกกะทึกใด ๆ ก็ตาม
5.  ปัญหาสารพัดรุมเร้า  ใจของเราก็ยังสงบเยือกเย็น แบบ"ธรรมดาๆ"
     ไม่อยากเถียง  แต่ขอหยุดและ สงบเย็น  มากกว่าที่จะพูดๆๆๆฯลฯ เพื่อให้ “สะใจ” ตนหรือเขา
     ทั้งหมดนี้ จะเกิดขึ้นเองเมื่อ จิตของเราได้ มี เป็น จริง
    ดังนั้น เราต้องตรึกนึกน้อมใจอยู่กับ"กายและใจ"ของเราเสมอๆ จนเป็น"อาจิณ"ปัจจุบัน เป็นส่วนหนึ่ง   (ส่วน   ใหญ่ของชีวิตประจำวัน นั่นเอง  วาง"ตัวความรู้"ที่เกิดจาก"ความคิด" เอาไว้ก่อนแล้วให้เปลี่ยนมาเป็น..เอา"ความรู้สึก"เป็นสรณะทุกการ  เคลื่อนไหวของกายและจิต ให้อยู่ปัจจุบันมากที่สุด
   ในที่สุด.....ใจของเราจะเป็น..."ธรรมดาๆๆๆ"

สำรวมจิต...คิดพูดทำ


ศีลต่างพร้อย  น้อยนิด      พินิจด้วย
จิตจะซวย     ซ้ำซ้อน        ก้อนมหา
ซ่อนน้อยนิด  คิดตื้นไป      ใช่ธรรมดา
ช่างมันนา      ด้วยนึกว่า    ไม่เป็นไร
ยิ่งวาจา        ปกปิด           จิตทำอยู่
วันหนึ่งรู้       มันใหญ่มาก   ยากผลักไส
จิตวิบาก     ยากภาวนา   พาขุ่นใจ
พึงฝากให้     สำรวมจิต    คิดวาจา

รู้ปัจจุบัน...ทันคิดปรุง



สำนึกดี        มีไว้            ให้ใจรู้
ใจตามดู       ภาวะเกิด      ภายในหนา
รู้เท่าทัน       รู้คลื่อนไหว    มากเวลา
ปัจจุบันมา   อยู่กับจิต      รู้คิดปรุง

อ่านหนังสือสื่อถึง...จิต


อ่านความ   ตามภาษา   ไม่พาคิด
อ่านดูจิต   ปรุงอยู่         รู้เถิดหนา
พองพอง   ฟุบอยู่         ดูเข้ามา
รู้เวลา      ปัจจุบัน        ทันตามปรุง

แนะ...ฝึกสติ


กายขยับเขยื้อน   เคลื่อนไป  ให้ใจรู้
ใจระลึกดู            อาการจิต   ความคิดหนอ
เพียงรู้               อยู่กายใจ   แค่นั้นพอ
สติก่อ               เกิดอยู่        คู่ชีวิน ...."

ไปสู่ดิน

ข้อคิดวันนี้                    สู่ดิน
                        *****

ไปสู่ดิน          ของทุกคน       ไม่พ้นหรอก
จึงขอบอก        เพื่อนชีวิต        มิตรทั้งหลาย
วันหนึ่ง            แน่แท้            ไม่แก่ก็ตาย
เราทั้งหลาย     กายหมดอยู่     ไป”สู่ดิน”
ไม่ได้แช่ง        แกล้งกลอน      วอนให้คิด
ฝึกดวงจิต        ระลึกรู้             อยู่ด้วยศีล
ภาวนาดี          มีสติ                เป็นอาจิณ
กาย"สู่ดิน"      จิตยังอยู่           มิรู้นาน

       .................Meesatidee.....24-01-55

วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555

หยุดเพื่อคิด.....ก่อนพูดเสมอ ๆ


...ไม่ต้องพูดทุกครั้ง(ทุกสิ่ง)ที่เราคิด  
 
แต่ให้คิด (พิจารณา)ก่อนทุกสิ่งที่จะพูด
เราจะพูดตามสมควรที่ควรพูดเราจะไม่พูดเพราะความเชยชิน หรือเพราะ"มัน"ใน
อารมณ์เพื่อให้มัน"สะใจ"คนพูด

....ทำได้ต้องอ่านดูรู้จิตตนเองบ่อย ๆ 

เตือนตนเองเสมอ ๆ



ทำ (ประโยชน์) แล้ววาง(ที่ใจ)
ดีกว่า วาง(เฉยๆ) แต่ไม่ทำอะไร
               ***

แม่วัว คอยชำเลืองลูกน้อยขณะเล็มหญ้า ไป ฉันใด
เราคอยเรียนรู้ดูจิต รู้(ทัน)ความคิด(ตน) ตลอดเวลา ฉันนั้น

"ตลอดเวลา ตลอดเวลา ตลอดเวลา ตลอดเวลา" เท่าที่จะทำได้มากที่สุด
นี้แล...เป็นการฝึกสติที่ได้ผลดีนัก
                   *****







ดีแต่พูด กับ พูดแต่ดี ๆ
ต่างกันมากนัก
ก่อนพูด พึงระวัง

อาหารเป็น"หนึ่ง"ในโลก


สัตบุรุษสอนเราว่า....
 อาหารเป็น"หนึ่ง"ในโลก
เวลากินอาหาร เป็นเวลาปฏิบัติธรรมได้อย่างดี

อ่านรู้ ดูจิต เกิด"อร่อย ชอบ ไม่ชอบ "
ดูอาการปรุงแต่งนั้น ๆ
ล้างอาการนั้น ๆ ที่ปรากฏ เสมอ ๆ ขณะ"กิน"
จนรู้สึก "เฉย ๆ" กับ "อาการ" ที่กระทบนั้น

รสชาดที่ติดอยู่จะจาง คลาย จนพบสงบ เยือกเย็น
ไม่ดิ้นรน อีกต่อไป ในเรื่อง "อาหาร"

อาหารเป็นทางหนึ่ง ของการ"เกิดใหม่"  เกิด"จิต" ใหม่ที่ต่างจากเดิม
พ้นทุกข์ ได้ตามจริงของตน
ช่วงฝึก ช่วงฝืน จะทุกข์ ทรมาน แต่พอทำได้แล้ว จะมีสุข เพราะพ้นการ"เสพ" รส จึงไม่กังวลใด ๆ อีก



ต้องอยู่คนเดียวให้ได้นะ


....ในที่สุดแล้ว
เราทุกคนต้องอยู่กับตนเอง และอยู่คนเดียว
ยามสนุก อาจจะมีหลายคนร่วมสุขด้วย
แต่ยามที่ทุกข์ ทรมาน แสนสาหัส
เราได้รับคนเดียว เราเจ็บ ทรมาน คนเดียวจริง ๆ

**ทุกวินาทีชองชีวิต ฝึก วาง"จิต"ของเราเสมอ ๆ
ให้อิสระ ไม่ต้องพึ่งสิ่งใด ๆ เราก็พบความสุขภายในได้ 

ติดยึด - ยึดแล้ว ติด



จิตที่ "ติดยึดอะไร ก็ทุกข์เพราะอันนั้น "   อย่างแน่นอน
ติด(ยึด)มาก ก็ทุกข์มาก ติดยึดน้อยก็ทุกข์น้อย
ไม่ติด ไม่ยึด ใด ๆ หลุดพ้นนั้น ๆ จิตมีอิสระ ร่าเริง เบิกบานภายในใจของตน

หมั่นสำรวจตรวจสอบ อาการภายในใจ เสมอ ๆ 
"ทุก ๆ ขณะจิต ที่ยังติด(ยึด)อะไร
ปล่อย และวางสิ่งนั้น ๆให้จางคลาย ลด และ ละ เลิก ได้
จิตปรากฏเป็น "อาการ "เฉย ๆ (อุเบกขา)   กับสิ่งติดยึดนั้น

รู้ได้ด้วยตนเอง
เป็น "รู้สึก" ไม่ใช่ "รู้อ่าน" 


ชีวิต เป็น ละคร



ชีวิต เป็น ละคร
ต่างก็เล่นกันไปตามบทบาทที่ถูกกำหนด(ตามหน้าที่)
ไม่หลงติด ไม่หลงยึดกับ บทที่เล่นนั้น

บทเล่นผ่านไปแล้ว   เรารีบกลับสู่เป็น "ปกติ"  ของ"คนธรรมดา ๆ
ต้องมี  แก่ เจ็บ และตายในที่สุด
นี่คือ...ของจริงแท้ พึง "ระลึกอยู่เสมอ ๆ"

โชคดี-โชคร้าย&เคราะห์ดี เคราะห์ร้าย

"โชคดี-โชคร้าย​& เคราะห์ดี-เคราะห์ร้าย" ต่างกันอย่างไร?


1) ถ้าคาดการณ์ไว้ว่า จะไปได้รับผลเป็นสิ่งดี ๆ แล้วได้ผลดีตามคาด นั้น เรียกว่า "โชคดี" แต่หากได้รับสิ่งไม่ดีนัก เรียกว่า "โชคร้าย"

2) ถ้าคาดการณ์ไว้ว่า จะไปได้รับผลเป็นสิ่งร้าย ๆ แล้วได้ผลร้ายน้อยกว่าที่คาดเอา​ไว้ เรียกว่า"เคราะห์ดี" แต่ได้รับผลเลวร้ายมากกว่าที่คาดเอาไว้
เรียกว่า
"เคราะห์ร้าย"

....หรือคนอื่น ๆ จะเห็นอย่างไร

รักและคิดถึง...



## ขอบอก      ออกมา     ว่าคิดถึง
น้ำใจหนึ่ง       น่ารัก        เป็นนักหนา
ยามแย้มยิ้ม     มีสุข        ชื่นอุรา
มองนัยน์ตา      หวานรื่น    ชื่นหทัย
                    *******



  รักใด    ไหนจะเท่า    รักของเรา    รักเมตตา

 เกื้อกูล   กันไปมา       สละให้       ด้วยใจเต็ม
                                       ###

 รักไม่ใช่          โซ่ตรวน       คอยกวนจิต
 เป็นอย่างมิตร   เช่นโซ่ทอง    คล้องใจห​นา
 อบอุ่น              สุขใจ          สบายอุรา
 อยากพบหน้า   อยากมีอยู่     คู่ชีวิน  

                    **** 

อากาศเปลี่ยน...


ข้อคิดวันนี้...12-01-55

อากาศเปลี่ยน     เวียนวน       คนเรียนรู้

ทุกสิ่งอยู่           เปลี่ยนไป     ใจคิดหลาย

ไม่ยึดติด           ผูกพัน          พลันผ่อนคลาย

จิตสบาย           ใจรับรู้           ดูเปลี่ยนแปลง

                    ####

ไม่อยากรู้ ...แค่ "รับรู้"


ข้อคิดวันนี้....15-01-55

##ไม่ต้อง    "อยากรู้"ทุกเรื่อง          ที่รับรู้
หลายเรื่องดู  ไร้สาระ                      ผละหน่ายหนี
รับรู้         แล้วควร "รู้"            แต่ดีดี
เพราะเรามี   จิตซับ                รับทุก"กรรม"

      ยามรู้เห็น       ได้ยินฟัง              วางเอาไว้
ฝึกทำใจ               ไม่คลุกตาม         ยามขบขัน
มีเกลียดโกรธ        ฟุ้งซ่าน               รำคาญพลัน
วางใจนั้น              ได้เป็น                พบเย็น"ใน"

                               #####

ข้อคิด...วันเด็ก


#อินเตอร์เนต       เฟสบุ๊ค       ยุคเด็กใหม่
รีบกด like           คุยดี           BB ถือ
ไอโฟนเก่ง           แชตเฟื่อง    เรื่องเล่าลือ
เป็นฝีมือ             เด็กไทย        like I T (ไลต์ ไอ ที )
วันเวลา          หมดไป      ใคร่ครวญครวญคิด
ดูแลมิตร        มีน้ำใจ       ได้สุขศรี
หมั่นฝึกจิต      คิดใดใด     ไปทางดี
เด็กพวกนี้       กว้างไกล     ใจเบิกบาน
                  ##

เด็กวันนี้...ย้อนอดีต


ข้อคิดวันนี้..."วันเด็ก" 2555(14-01-55)

ดูเด็กไทย      สมัยนี้            มีให้คิด
ย้อนชีวิต       ตัวเรา            นานหนักหนา
เมื่อเป็นเด็ก    เหนื่อหนัก     ทุกเวลา
สร้างสู้มา      อดออม         ยอมสู้งาน
ขอเด็กไทย     รุ่นใหม่    ได้เรียนรู้
เหนื่อยเป็นครู สู้ลำบาก       ใช่ขวากหนาม
แบ่งเวลา        ศึกษา          เรื่องดีงาม
ฝึกจิตตาม      รู้อยู่             สู่สิ่งดี ##
              *****

บ่น กับ บอก แยกออกไหม


บ่น เป็นการพูดตำหนิในสิ่งที่ผู้พูดไม่ถูกใจ ด้วยจิตมี"โทสะ" ซึ่งบ่นมาก ก็มีโทสะมาก
บ่นไม่มากนักก็มีโทสะปนอยู่ไม่มาก  ตามส่วน สังเกตได้จาก"น้ำเสียง" ที่ออกพูดออกมา
 ทำให้คนใกล้ชิดหรือผู้รับฟัง มีโทสะ (อาการไม่ชอบ) ไปด้วย

บอก เป็นการพูดที่ชี้แนะ แนะนำ หรือให้ความคิดเห็นด้วยความปรารถนาดีกับผู้รับฟังนั้น
ด้วยจิตที่มีเมตตา สังเกตได้จาก น้ำเสียง ท่าทาง คนฟังรู้สึกอบอุ่นและยอมรับการแก้ไข
ด้วยจิตที่ดีตอบ 
          ปุถุชน และกัลญาณชน   มักจะพูดชนิด "บ่น" เสียมากกว่า "บอก" 
         อริยะชน  จะพูดด้วยการ "บอก" ไม่ใช่ "บ่น" 

          ด้วยเหตุนี้ ก่อนจะพูดใด ๆ ให้รู้เท่าทันจิตที่คอยสังขาร ถ้ารู้เร็วไว  (สติที่ฝึกไว้ดี) จะช่วย
ให้เราปรับอาการบอก ได้ มากกว่า บ่น 

สงบใจ...ใช่หนีคน



# แม้จะหนี ใครใคร ให้ไกลมาก
เบื่อลมปาก ลีลา มาเยาะหยัน
เบื่อคนโน้น รำคาญคนนี้ ทุกวี่วัน
คนใกล้กัน จุกจิกใจ ไปไกลดี

# คงสงบ ลงบ้าง เมื่อห่างที่
ไกลพวกนี้ จิตทุกข์ จะสุขขี
กลับฟุ้ง ติดตามใจ ทุกนาที
จิตเรามี ตามตน ไม่พ้นกาล

#ให้สงบ ในจิต ใช่คิดจาก
ใช่กายพราก หลีกหลบ ไม่คบสาน
ควรฝึก"รู้" ดูทันคิด จิตชำนาญ
รู้ตัว มาร ในจิตใจ ใช่ไกลคน...@
              ****